MacBook เครื่องนี้มีขนาดความจุเดิมอยู่ที่ 256GB ด้วยความที่ว่าข้อมูลส่วนตัว และ ยังต้องแบ่งขนาดออกเป็น 2 ส่วนสำหรับลงวินโดว์ด้วย การใช้งานไปนานๆ ก็ทำให้พื้นที่เต็ม และ เครื่องช้าลง ด้วยความอึดอัดเลยหาข้อมูลว่าทำยังไงได้บ้าง ก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นของการอัพเกรดในครั้งนี้ ใช้เวลาไม่ถึง 15 นาที สำหรับการเปลี่ยนครับ
สิ่งที่ต้องเตรียม
- ตัวแปลงจาก SSD จาก NVMe เป็น 12+16 Pin (ของเดิม MacBook)
- SSD WD Black ขนาด 500GB หรือ ใครจะเลือกใหญ่กว่านี้ก็ได้ แต่สำหรับผมแบ่งให้ BootCamp ครึ่งๆ เพียงพอต่อการใช้งานครับ
- USB Drive ขนาด 16GB สำหรับทำตัวติดตั้ง macOS ครับ
- ไขควงสำหรับไขฝาหลัง MacBook
ทำตัวติดตั้ง macOS โดยใช้ USB
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า macOS ที่ High Sierra ลงมาจะไม่รองรับ SSD ที่เป็น NVMe เมื่อใส่ไปแล้วจะเกิดปัญหาว่า macOS จะมองไม่เห็น SSD จึงต้องทำตัวติดตั้งก่อน เพราะถ้าหากเครื่องแมคใครมาพร้อมกับ El Capitan จะมีปัญหาเรื่องการติดตั้งแน่นอนครับ สามารถทำตามข้างล่างได้เลย
1) โหลดตัวติดตั้ง Mojave (แนะนำตัวนี้เพราะขนาดไม่ใหญ่มากประมาณ 6-7GB) ที่ App Store สามารถดาวน์โหลดได้ โดยคลิกที่นี่
2) หลังจากดาวน์โหลดตัว Installer เสร็จเรียบร้อย ใหเสียบ USB Drive แล้วเปิด Terminal ขึ้นมาพิมพ์คำสั่ง Install\ macOS\ Mojave.app/Contents/Resources/createinstallmedia –volume /Volumes/MyVolume (โดยที่ /Volumes/MyVolume ให้เป็นที่อยู่ของ USB Drive นะครับ) แล้วทำตามขั้นตอนจนเสร็จประมาณ 15-20 นาทีเป็นอันเรียบร้อย
เริ่มต้นเพิ่มความจุกันเลยดีกว่า
1) ไขฝาหลัง MacBook ออก
2) ไขสกรูที่ยึด SSD เดิมออกที่มุมขวาบน ดึงออกโดยการดึงไปทางซ้าย
3) ใส่ SSD ตัวใหม่ประกอบด้วยตัวแปลง ใส่แทนตำแหน่งเดิม แล้วไขฝาหลังคืนที่
4) ติดตั้ง macOS โดยการกด ALT ค้างไว้แล้วเลือกไปที่ USB Drive ที่เราทำตัวติดตั้งไว้ครับ
สรุป
สำหรับค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการอัพเกรดใช้ Budget ราวๆ 2,000 บาท ก็ได้ MacBook ที่มีขนาด 500GB แล้วครับ สำหรับใครที่ติดปัญหาอะไร สามารถพิมพ์คอมเมนท์เข้ามาได้เลยครับ ยินดีตอบทุกคำถามครับ